ThaiEasyElec ตะลุย ฮ่องกง – เซินเจิ้น ปี 2

ThaiEasyElec ตะลุย ฮ่องกง – เซินเจิ้น ปี 2

เป็นครั้งที่สองในรอบสามปีนะครับที่คณะ ThaiEasyElec ได้ไปเยือนฮ่องกงและเสินเจิ้น การไปเยือนในครั้งนี้ วัตถุประสงค์ก็เพื่อจะไปชมงาน China Sourcing Fair 2010 และงาน Hong Kong Electronics Fair (Autumn Edition)  ซึ่งจัดขึ้นที่ฮ่องกง และ ไปเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าที่ เสินเจิ้น โดยการไปครั้งนี้ เรามีกำหนดการ 4 วัน 3 คืน ตั้งแต่วันที่ 13-16 ตุลาคม 2553

ค่าใช้จ่ายของทริปนี้ที่ ThaiEasyElec ไปกันเอง

  • ค่าตั๋วเครื่องบิน Air Asia ไปกลับ = 10,200*4 = 40,800 บาท
  • ค่าที่พัก HK + China (3 คืน / ฮ่องกง 1 คืน / จีน 2 คืน) = 28,700 บาท
  • ค่า Pocket Money = (4800*3)+15000 = 29,400 บาท

รวมยอด = 98,900 บาท ครับ เฉลี่ยค่าใช้จ่ายคนละ 24,725 บาท ครับ ซึ่งคาดว่า ถ้าวางแผนจองตั๋วทุกอย่างล่วงหน้าอย่างดี จะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ 10,000-15,000 บาทเลยทีเดียว เช่น การจองตั๋ว Air Asia ช่วงโปรโมชั่น 900 บาท , การจองโรงแรมที่ไม่ชนเทศกาลของประเทศนั้น ๆ

การเตรียมตัวเพื่อการเดินทาง

  • แลกเงินบาทเป็นเงิน เหรียญฮ่องกง (HK Dollar) และ เงินหยวน (RMB)
  • ที่พักในฮ่องกงตามโรงแรมต่าง ๆ ราคาจะสูงมากในช่วงที่มีงาน Expo หรือฤดูท่องเที่ยง ให้เช็คก่อนล่วงหน้าเพื่อจองที่พัก แนะนำเป็นย่านแถว ๆ ถนน นาธาน (Nathan) เพราะการคมนาคมจะสะดวกมาก ๆ
  • ไม่ควรเอากระเป๋าไปใหญ่มาก เพราะจะต้องเดินเท้าหลายต่อ เพื่อเดินทาง
  • แนะนำหนังสือเล่มนี้ครับ พกติดตัวไป หรือ อ่านก่อนล่วงหน้า ดีมาก ๆ “แบกเป้ ตะลุยเดี่ยว ลัดเลี้ยวเที่ยว ฮ่องกง-เซินเจิ้น-มาเก๊า”
    http://www.se-ed.com/eshop/Products/Detail.aspx?No=9789746192361

กำหนดการเดินทางในวันแรก (13/10/53) – เข้าขมงาน China Sourcing Fair 2010 ที่ฮ่องกง 
คณะเราเริ่มออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 6 โมงเช้า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงสนามบินเช็กแลบก๊อก ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติของฮ่องกง (Cek laap gok)  จากสนามบินเช็กแลบก๊ก

เราก็มุ่งหน้าตรงไปยังงาน China Sourcing Fair  ซึ่งจัดขึ้นที่ Asia World Expo ทันที โดยในส่วนนี้ต้องขอชื่นชมผู้จัดงานครับ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างดี โดยการมาตั้งบูทสำหรับรับฝากกระเป๋าสัมภาระ และแจกตั๋วรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปที่งานให้แบบฟรีๆ ในส่วนของรถไฟฟ้าที่ใช้เดินทางไปที่งานนั้น จะเป็นรถไฟฟ้าสาย Airport Express ครับ ซึ่งจะเทียบได้กับ รถไฟฟ้าสาย Airport link ของบ้านเรา การเดินทางโดยรถไฟฟ้าจากสนามบินมายัง Asia World Expo ก็ใช้เวลาไม่นานครับเพียงแค่นั่งลงมาสถานีเดียว ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีครับ บรรยกาศที่งานคนเยอะพอสมควรเลยครับ อันดับแรกเมื่อมาถึงงานแล้ว เราก็ต้องไปลงทะเบียนเข้างานก่อนนะครับ โดยที่เจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ และอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี และที่สำคัญทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้ดีมากครับ ภายในงานจะแบ่งออกเป็น ทั้งหมด 10 Hall นะครับ พื้นที่จัดงานใหญ่โตกว้างขวางมาก เทียบได้กับ Impact Arena กับ Challenger Hall เมืองทองธานีรวมกันลองนึกภาพตามนะครับว่าใหญ่ขนาดไหน โดยในแต่ละ Hall ก็จะแบ่งแยกตามประเภทของสินค้าที่แตกต่างกันออกไป เช่น Electronics component, Lighting, Electronics appliance, Security system, Car Navigator, Mobile phone accessories และอื่นอีกมากมายครับ ในการเดินชมงานนั้นเพื่อที่จะสามารถเดินให้ได้ครอบคลุมทั้งหมด ทางคณะของเราจำเป็นที่จะต้องแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มครับ

บริษัทส่วนใหญ่ที่มาออกบูทในงานจะมาจาก ฮ่องกง, จีน, ไต้หวัน และเกาหลี ผู้เข้าชมงานก็มาจากหลายที่หลายทางเช่นเดียวกันครับมีทั้งพวกคนจีน พวกฝรั่ง และพวกตะวันออกกลาง บรรยกาศของงานมองไปทางไหนก็เจอแต่บูทแสดงสินค้าครับ เรียกได้ว่า ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าในทุกตารางนิ้วเลยทีเดียว การเดินชมงานของผู้เข้าร่วมชมงานนั้นมีทั้งที่มาเดินดูสินค้าแปลกๆใหม่ๆและ มาเจรจาธุรกิจก็มีครับ และถ้าเกิดเราชอบใจสินค้าตัวไหน สำหรับบางบูทจะสามารถซื้อแล้วหิ้วติดไม่ติดมือกลับมาได้เลยครับ คณะเราใช้เวลาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ประมาณเที่ยงๆ จนถึงประมาณห้าโมงเย็น ก็เดินทางกลับโรงแรมที่พักโดยใช้รถไฟครับ

PINGPONG with WII on China Sourcing Fair – HongKong 2010

วันที่สองของการเดินทาง (14/10/53) – เข้าชมงาน Honk Kong Electronics Fair และ มุ่งหน้าสู่เสินเจิ้น
    ในวันที่สองนี้ในช่วงเช้าคณะของเราจะเข้าชมงาน Hong Kong Electronics Fair (Autumn Edition) ที่ Hong Kong Convention and Exhibition Center สำหรับงาน Hong Kong Electronics Fair ในหนึ่งปีจะมีงานอยู่สองช่วงนะครับ คือ Spring Edition จะจัดประมาณเดือนเมษายน และ Autumn Edition จะจัดในช่วงเดือนตุลาคม สำหรับการเดินทางไปที่งานก็สะดวกมากครับสามารถนั่งรถไฟใต้ดินแล้วลงที่สถานี Wan Chai พอขึ้นจากสถานี แล้วก็เดินต่ออีกประมาณ 500 เมตรก็ถึงที่งานแล้วครับ จากโรงแรมของเราซึ่งอยู่ในละแวกสถานี Ya Ma Tei การเดินทางเริ่มต้นโดยนั่งรถไฟสาย Tsuen Wan จาก สถานี Ya Ma Tei มาลงที่สถานี Admiralty หลังจากนั้นก็เปลี่ยนสาย (เปลี่ยนเหมือนกับตอนเปลี่ยนสายรถไฟฟ้า BTS ที่บ้านเราเลย) เป็นสาย Island และนั่งมาลงที่สถานี Wan Chai

Download แผนที่ชัด ๆ ที่นี่
http://www.workinginhongkong.com/download/mtr-map.jpg

พอมาถึงงาน ก็ทำตามธรรมเนียมครับ คือ ต้องลงทะเบียนเข้างานก่อน สำหรับท่านไหนที่จะมางานเหล่านี้ แนะนำให้ pre-register มาก่อนนะครับ เพราะถ้ามาลงทะเบียนหน้างานจะต่อคิวค่อนข้างยาวและนานครับ ภาพรวมของงานนั้นจะแบ่งเป็นโซนๆตามผลิตภัณฑ์และประเภทของสินค้าเช่นเดียวกับ งาน China Sourcing Fair ครับ เพียงแต่สินค้าที่นำมาแสดงนั้น จะเน้นไปทางด้าน consumer product เสียส่วนใหญ่

ในการเดินชมงานนั้น คณะเราก็ใช้แผนเดิมครับ คือ แบ่งออกเป็นสองทีมเดินสำรวจ แต่พอเดินไปเดินมา ก็มาเจอกันอยู่ดี เพราะว่าสถานีที่ใช้จัดงานจะไม่ใหญ่มาก แต่อาศัยว่ามีหลายชั้น การจัดงานของที่นี่ถือว่ามืออาชีพเลยครับ คือ จะมีโซนที่ไว้สำหรับเจรจาธุรกิจแยกเอาไว้ให้เฉพาะเลยครับซึ่งจะอยู่ที่ชั้น ล่าง และการเดินชมงานนั้น จะมีเจ้าหน้าที่คอยถือป้ายบอกว่า Hall นี้แสดงสินค้าเกี่ยวกับอะไร และก่อนที่จะเข้าชมงานใน Hall ต่างๆก็จะมีการสแกนบัตรก่อนเข้าทุกครั้งเพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลของผู้จัดงาน ครับ พวกเราใช้เวลากับงานนี้ จนกระทั่ง บ่ายสี่โมงเย็นครับ จึงเดินทางกลับโรงแรมที่พักโดยใช้รถไฟใต้ดินเหมือนเดิม เพื่อมาเอากระเป๋าสัมภาระที่ฝากเอาไว้ และเดินทางข้ามฝากไปยังเสินเจิ้นพอดี

การเดินทางจากฮ่องกงไปเสินเจิ้นนั้นสะดวกและ ง่ายมากครับ คือ เราสามารถนั่งรถไฟจากฮ่องกงไปได้เลยครับ จากสถานี Yau Ma Tei นั่งรถไฟใต่ดินสาย Kwun Tong แล้วมาลงที่สถานี Kowloon Tong และเปลี่ยนไปเป็นสาย East rail (ลองดูแผนที่รถไฟในหน้าที่ 3 ประกอบนะครับจะได้ไม่งง) เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานี Lo wu ตอนที่จะมาขึ้นรถไฟสาย East rail นี้ เราต้องสังเกตให้ดีๆนะครับว่า รถไฟขบวนนี้ไปสุดทางที่สถานีไหนระหว่าง Lo wu กับ Lok Ma Chau ถ้าเราจะไปเสินเจิ้นต้องลงที่ Lo wu นะครับ การเดินทางโดยรถไฟมาเสินเจิ้นนั้น จะใช้เวลาประมาณ 45-50 นาทีครับ พอลงที่สถานี Lo wu เรียบร้อยแล้ว มันก็จะเป็นทางบังคับเราก็เดินตรงไปเรื่อยๆ เพื่อจะเข้าด่าน Immigration ของฮ่องกงเพื่อตรวจเอกสารตอนออกจากฮ่องกง หลังจากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆตามทางเพื่อไปเข้าด่าน Immigration ของจีน พอมาถึงตรงนี้เท่ากับว่าเราได้เข้ามาเหยียบบนผืนแผ่นดินของจีนเรียบร้อยแล้ว นะครับ แหมแค่เดินข้ามแม่น้ำมานิดเดียวเอง ประเทศก็เปลี่ยนซะละ หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณ เกือบทุ่มแล้วครับ คณะเราก็เดินทางเข้าโรงแรมที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก สถานี Luo Hu  โดยรถแท๊กซี่ครับ วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่เหนื่อยมากทีเดียวครับทั้งการเดินทางไปหลายที่และ ความเหนื่อยที่สะสมมาจากวันแรกครับ

วันที่สามของการเดินทาง (15/10/53) – พบปะคู่ค้าในจีน
    หลังจากพักผ่อนเอาแรงกันอย่างเต็มที่ วันนี้ก็เป็นวันที่เราใช้เวลาทั้งวันในพบปะกับคู่ค้าในจีน ซึ่งอยู่ในเสินเจิ้นและกวางโจว ความรู้สึกของพวกเราสองวันที่ผ่านมากับทริปนี้เหมือนว่าผ่านไปเร็วมากๆเลย ครับ เพราะแต่ละวันคิวอัดแน่นเหลือเกิน

วันสุดท้ายของการเดินทาง (16/10/53) – เดินชมและซื้อของที่บ้านหม้อเสินเจิ้น และเดินทางกลับประเทศไทย       
    มาถึงวันสุดท้ายของการเดินทางแล้วนะครับ วันนี้ค่อนข้างเป็นวันที่สบายๆนิดนึงครับ ออกจากโรงแรมกันประมาณ 10 โมงเช้า เดินทางไปบ้านหม้อเสินเจิ้นโดยใช้รถแท๊กซี่ค่ารถตกประมาณ 100 กว่าบาทครับ (ประมาณ 20 หยวน) ไม่แพงมาก สำหรับบ้านหม้อเสินเจิ้นจะตั้งอยู่ในย่าน Hua Qiang (หัว-เฉี่ยว) นะครับ สำหรับตึกที่ขายพวก Electronics component เนี่ย มีหลายตึกเลยครับ เรียกว่าดูกันจนมึนจนตายลายไปเลยครับ ถ้าเทียบกับบ้านหม้อของเรานี่ บ้านหม้อเรายังขายเยอะได้ไม่เท่าตึกหนึ่งของที่นี่เลยครับ เรียกว่าเทียบกันไม่ติดเลยจริงๆ

Huaqiang Lu – Electronics Market @ShenZhen China


ในแต่ละตึกนั้น ก็จะขายคล้ายๆกันนะครับ แต่จะมีบางตึกที่จะเน้นขายเฉพาะพวก consumer อย่างเดียวก็มี ซึ่งสินค้าพวก consumer นี่ก็ไม่น้อยหน้าเลยครับ มีให้เลือกกันอย่างละลานตาเลยทีเดียว คณะของเราใช้เวลาอยู่ที่นี่นานพอสมควรเลยครับ จนกระทั่งประมาณห้าโมงเย็นก็เดินทางกลับโรงแรมเพื่อไปพบกับ supplier อีกเจ้าซึ่งนัดพบกันที่โรงแรม ถือเป็นภารกิจสุดท้ายในการเดินทางของเราครับ ภายหลังจากพูดคุยเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เตรียมตัวเดินทางออกจากโรงแรมไปสนามบินนานาชาติเสินเจิ้นครับ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย โดย fright ที่กลับนั้นจะเป็น fright สุดท้ายเลยครับ คือ ประมาณห้าทุ่มของที่โน่น กลับมาถึงเมืองไทยก็ประมาณตีหนึ่งกว่าๆเกือบตีสองครับ เป็นอันว่าจบภาระกิจการเดินทางอันทรหดของเราแต่เพียงเท่านี้ครับ